ปากเพียวนิวส์ | Pakphriao News ข่าวสดออนไลน์

ปปช.ฟันยื่นบัญชีเท็จ อีกข้อหาผิดจริยธรรม ปมที่ดินฟาร์มไก่บาน เอ๋ปารีณาฮึ่มฟ้องกลับ : แฟ้มคดี

ปมที่ดินฟาร์มไก่บาน เอ๋ปารีณา

ปปช.ฟันยื่นบัญชีเท็จ อีกข้อหาผิดจริยธรรม ปมที่ดินฟาร์มไก่บาน เอ๋ปารีณาฮึ่มฟ้องกลับ ท่ามกลางการจับตาของสังคมในที่สุดก็มีความคืบหน้า

ฟาร์มไก่บาน – ท่ามกลางการจับตาของสังคมในที่สุดก็มีความคืบหน้า

สำหรับคดีรุกป่าสงวนแห่งชาติของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี ที่มีบทบาทอย่างสูงในการเป็นองครักษ์พิทักษ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ตลอดจนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพปชร.

ที่ก่อนหน้านี้ถูกกรมป่าไม้แจ้งข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ และสำนักงานปฏิรูปที่ดิน ก็สั่งให้คืนพื้นที่ เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้มีสิทธิ์ถือครองที่ดินส.ป.ก.

จนกระทั่งมีการนำมาร้องเรียนให้ป.ป.ช. พิจารณาในเรื่องการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ เนื่องจากเดิมที่ระบุว่ามีที่ภบท.5 กว่า 1,700 ไร่ นั้น ตรวจสอบพบอยู่ในครอบครองแค่ 700 ไร่เท่านั้น

ซึ่งล่าสุดป.ป.ช.มีมติให้แจ้ง 2 ข้อหา คือแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ และผิดจริยธรรม

ขณะที่เจ้าตัวเปิดหน้าชนพร้อมชี้แจงทุกกรณี และลั่นเตรียมฟ้องกลับป.ป.ช.หากทำให้เสื่อมเสีย

ไม่ทิ้งลายขุนพลคนสำคัญของพปชร. ซึ่งต้องดูว่าบทสรุปจะออกมาเป็นอย่างไร

‘ใครหมู่ใครจ่า’จะได้รู้ในอีกไม่นาน

ปปช.แจ้ง 2 ข้อหาปารีณา

หลังจากที่คดีรุกป่าสงวนแห่งชาติของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ถูกเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงาน ทั้งกรมป่าไม้ บก.ปทส. ระบุชัดเจนว่ามีพื้นที่ฟาร์มไก่เขาสนฟาร์ม ของน.ส.ปารีณา รุกล้ำพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติอย่างน้อย 46 ไร่ ขณะที่สำนักงานปฏิรูปที่ดิน ก็ขอคืนพื้นที่ส.ป.ก.กว่า 600 ไร่คืนจาก น.ส.ปารีณา เพราะไม่มีสิทธิ์ถือครอง ซึ่งเป็นเรื่องตั้งแต่ ปลายปี 2562

มาจนกระทั่งต้นปี 2563 เรื่องดังกล่าวถูกนำไปร้องเรียนป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบกรณีแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ เนื่องจากน.ส.ปารีณา แจ้งบัญชีทรัพย์สินว่าถือครองที่ดิน 1,700 ไร่ แต่เท่าที่ตรวจสอบมีเพียง 700 ไร่เศษ จึงน่าสงสัยมีการซุกที่ดิน หรือมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ในการยื่นบัญชีทรัพย์สินไม่ตรงข้อเท็จจริง

คดีดังกล่าวถูกทวงถามความคืบหน้าเรื่อยมา ขณะที่พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. ก็ให้สัมภาษณ์ยืนยันกับสื่อว่าใกล้จะสรุป ไม่ล่าช้า เพราะเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ

ในที่สุดก็ได้ความคืบหน้า เมื่อมีรายงานข่าวออกมาในวันที่ 7 ก.ย. ระบุว่า ป.ป.ช.เตรียมแจ้งข้อหาน.ส.ปารีณา 2 ข้อหา คือจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ และกรณีกระทำความผิดจริยธรรมร้ายแรง หากไต่สวนแล้วมีมูลความผิดจริง จะส่งเรื่องไปยังอัยการ เพื่อส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ขณะที่การบุกรุกที่ดิน แยกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ เนื่องจากเห็นว่า น.ส.ปารีณา เป็นเจ้าหน้าที่รัฐบุกรุก

แต่ป.ป.ช.เห็นว่า เรื่องนี้เป็นการกระทำความผิดในฐานะส่วนตัว และไม่ชัดเจนว่าเป็นการกระทำในฐานะ ส.ส. จึงส่งเรื่องกลับไปให้ตำรวจบก.ปทส.ดำเนินการ

ขณะที่นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการป.ป.ช. หลังจากแจ้งข้อหาแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาสามารถแจงหลักฐานเพิ่มเติมภายใน 15 วัน หากครบ 15 วันแล้วถือว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ประสงค์จะแก้ข้อกล่าวหาเพื่อหักล้าง

“การแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว เป็นเพียงกระบวนการตามกฎหมาย น.ส.ปารีณา ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะคดียังไม่มีการชี้มูลความผิด และเมื่อแก้ข้อกล่าวหาแล้ว หากป.ป.ช.เห็นว่าไม่มีมูลความผิด คดีดังกล่าวก็จะตกไป แต่หากมีมูลก็ชี้มูลความผิดก่อนส่งเรื่องนี้ให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นผู้วินิจฉัย และหากศาลฯ ประทับรับฟ้องน.ส. ปารีณา จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ทันที”

เป็นขั้นตอนกฎหมายที่ต้องดำเนินต่อไป

หลังจากถูกเรียกแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ปารีณาก็เคลื่อนไหวตอบโต้เรื่องดังกล่าวทันที โดยเปิดแถลงข่าวที่รัฐสภาพร้อมกับนายทศพล เพ็งส้ม ฝ่ายกฎหมายของพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะทนายความ

โดยนายทศพลกล่าวว่า ข้อกล่าวหาที่ป.ป.ช.แจ้งต่อน.ส.ปารีณามี 2 ข้อหา ข้อหาแรกคือ การแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ มี 3 เรื่องคือ 1.ไม่เชื่อว่าน.ส.ปารีณามีสถานะเป็นเจ้าหนี้เงินกู้ 7.7 ล้านบาทจริง เพราะฝ่ายลูกหนี้ปฏิเสธว่า ไม่ได้กู้เงินจากน.ส.ปารีณา กรณีนี้มีหลักฐานชัดเจนเป็นหนังสือกู้ยืมเงิน เรื่องอยู่ระหว่างการฟ้องร้องเป็นคดีความ

2.ราคาพระสมเด็จบางขุนพรหม 2.5 ล้านบาท ที่ได้จากอดีตสามี ซึ่งน.ส.ปารีณา แจ้งราคาดังกล่าวต่อป.ป.ช.ตามที่อดีตสามีบอก 3.การแจ้งเท็จเรื่องการครอบครองที่ดินภบท.5 จำนวน 58 แปลง ยืนยันว่า ไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จต่อป.ป.ช. พร้อมไปชี้แจงต่อป.ป.ช.ว่า รายการที่ดินภบท.5 ที่ครอบครองอยู่จริง มีอยู่ 29 แปลง ไม่ใช่ 58 แปลง

โดย 29 แปลงที่เหลือ ถ้านำมาเทียบจะเป็นแปลงเดียวกับ 29 แปลงที่มีอยู่จริง แต่ที่แจ้งไป 58 แปลง เนื่องจากฝ่ายบัญชีเข้าใจคลาดเคลื่อนในการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ยื่นเอกสารไปทั้งหมด โดยไม่รู้ว่ามีรายการที่ดินที่ซ้ำซ้อนเป็นรายการเดียวกันอยู่ ยืนยันว่า ไม่มีการสวมรอยเอาที่ดินคนอื่นมาแจ้ง

นายทศพลกล่าวว่า ข้อหาที่ 2 การแจ้งข้อหาเรื่องการทำผิดจริยธรรมนั้น ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่า ป.ป.ช.แจ้งข้อหาเรื่องผิดจริยธรรมร้ายแรงในหมวดใด เพราะมีทั้งจริยธรรมทั่วไปและจริยธรรมร้ายแรง จะได้เตรียมหลักฐานมาต่อสู้คดี ทั้งสองข้อหา

ทั้งนี้ในวันที่ 10 ก.ย.จะทำหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ส่งไปยัง ป.ป.ช.ก่อนใน 2 ประเด็นกรณีการให้กู้เงิน 7.7 ล้านบาท และราคาพระเครื่องที่ได้เตรียม หลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไว้หมดแล้ว ส่วนเรื่องที่ดินภบท.5 อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อนำไปชี้แจง และเรื่องการทำผิดจริยธรรมก็กำลังพิจารณาอยู่ว่า ป.ป.ช.จะให้ชี้แจงการทำผิดจริยธรรมในประเด็นใด

ขณะที่น.ส.ปารีณาระบุว่า ไม่หนักใจ พร้อมจะไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อป.ป.ช. พร้อมเตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ ไว้ชี้แจงต่อป.ป.ช.เรียบร้อยแล้ว มั่นใจสามารถชี้แจงต่อป.ป.ช.ได้ในทุกประเด็น

ทั้งนี้ที่ดิน ภบท. 5 ตนเข้ามาครอบครองและเริ่มชำระภาษีดอกหญ้าตั้งแต่ประมาณปี 2553 แต่เนื่องจากเลขาฯ จัดเตรียมเอกสารผิดพลาด นำเอาที่ดิน ภบท.5 พื้นที่เดียวกันนี้ แต่เป็นผู้ครอบครองคนอื่น หรือผู้ครอบครองก่อนที่ไม่ใช่ตน ส่งป.ป.ช. ไปด้วย

“ฝากท่านรองเลขาธิการป.ป.ช.ด้วยว่า การให้สัมภาษณ์ควรเป็นไปด้วยความระมัดระวัง เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เปิดโอกาสให้ฟ้อง ป.ป.ช.ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการทำหน้าที่หรือประเด็นการพูดจนทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย”

เป็นการขู่ฟ้องกลับที่น่าสนใจ

เปิดที่มาถูกสอบรุกป่าสงวน

สำหรับจุดเริ่มต้นคดีรุกป่า ไปจนถึงการแจ้งบัญชีทรัพย์เท็จ ย้อนไปช่วง ปลายต.ค. 2562 ที่น.ส.ปารีณา ออกมาตรวจสอบที่ดินของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

โดยระบุว่ามีที่ดิน 500 ไร่ ในพื้นที่ บ้านหนองน้ำใส ต.บางรางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ที่นางสมพร ซื้อต่อมาจากโรงงานน้ำตาลแห่งหนึ่งเมื่อปี 2534 มีลักษณะเป็นน.ส.2 และภบท.5 ซึ่งชาวบ้านต้องการให้เป็นพื้นที่ป่าชุมชน ขณะที่น.ส.ปารีณา เป็นตัวแทนชาวบ้านยื่นหนังสือถึงร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้ยึดที่ดินดังกล่าวคืน

ขณะที่นางสมพรระบุผ่านที่ปรึกษากฎหมายว่าหากมีการสำรวจแนวเขตพบว่ามีส่วนไหนที่ล้ำเกินขึ้นมาก็พร้อมยกให้ชุมชน

แม้เรื่องที่ดินของน.ส.สมพรจะจบไป แต่เรื่องอื่นก็ยังไม่จบ

เมื่อการตรวจสอบถูกขยายผลไปยังพื้นที่อื่น โดยนายเรืองไกร กิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เป็นผู้ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบที่ดิน ภบท.5 ในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี กว่า 1,700 ไร่

ต่อด้วยนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) เข้าแจ้งความต่อตร.สภ.จอมบึง จ.ราชบุรี เพื่อให้ขอตรวจสอบฟาร์มไก่ของน.ส.ปารีณา ในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ที่ระบุว่ามีถึง 1.7 พันไร่

จากนั้นกรมป่าไม้ก็ลงพื้นที่ตรวจสอบฟาร์มไก่เขาสนฟาร์มของน.ส.ปารีณา ระบุว่าจากการรังวัดพบที่ดินทั้งหมด 46 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี 41 ไร่ 1 งาน 59 ตารางวา และอยู่ในเขตป่า ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 จำนวน 4 ไร่ 3 งาน 81 ตารางวา

พร้อมให้เจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีที่บก.ปทส. ในความผิด 4 ข้อหา ประกอบด้วย 1.กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54

2.กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 3.กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และ 4. พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97

เป็นคดีอาญา ก่อนถูกป.ป.ช.แจ้งข้อหาในครั้งนี้

หน้าแรก 

ติดตามข่าวทาง

Facebookhttps://www.facebook.com/PAKPHRIAONE

Exit mobile version