กรมการขนส่งทางบก สั่งเอาผิดรถบัสกฐินดับ 18 ศพ ใน 3 ข้อหา โดนโทษปรับ 150,000 บาท จ่อเรียกตัวผู้ประกอบการสอบสวน พิจารณาลงโทษ
เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมการขนส่งทางบก เผยแพร่เอกสารกรณีที่กรมการขนส่งทางบก โดยขนส่งจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ตรวจสอบให้ความช่วยเหลือ กรณีเมื่อวันที่ 11 ต.ค.2563 เกิดอุบัติเหตุรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนที่ 5102 ชนรถโดยสารไม่ประจำทางคันหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 18 ราย และมีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดบริเวณจุดตัดทางข้ามรถไฟสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา นั้น
โดยจากข้อมูลเบื้องต้น กรมการขนส่งทางบกตรวจสอบราย ทราบว่ารถบัสโดยสารคันดังกล่าว เป็นรถโดยสารไม่ประจำทางคันหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา บรรทุกผู้โดยสารเป็นพนักงานบริษัท เพอร์เฟคโปรดักซ์ จำกัด จำนวน 57 ราย ออกจากจังหวัดสมุทรปราการเวลา 06.30 น. มุ่งหน้าไปทอดกฐินที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 08.05 น. ขณะกำลังขับผ่านจุดตัดทางข้ามรถไฟที่ไม่ทีเครื่องกั้น พนักงานขับรถบัสโดยสารสังเกตเห็นรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนที่ 5102 กำลังเล่นมาด้วยความเร็วและพนักงานขับรถบัสโดยสารพยายามหยุดรถแต่รถเกิดลื่นไถลพุ่งไปชนกับหัวขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ จำนวน 18 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวน 39 ราย นำตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธโสธร และโรงพยาบาลบ้านโพธิ์แล้ว
รถโดยสารไม่ประจำทาง ลักษณะรถโดยสารไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา วันสิ้นอายุภาษี 30 กันยายน 2563 ตรวจสภาพครั้งสุดท้ายวันที่ 8 ตุลาคม 2562 โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชื่อผู้ประกอบการห้างหุ้นส่วนจำกัด รวิสรา เอ็กซ์เพรส ใบอนุญาตประกอบการเลขที่ อย. 42/2563 วันสิ้นอายุใบอนุญาต 21 กุมภาพันธ์ 2568 เบื้องต้นรถมีประกันภัยประเภท 3 บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด สิ้นอายุวันที่ 30 กันยายน 2564
พนักงานขับรถ ชื่อนายบุญส่ง สวนยิ้ม ใบอนุญาตขับรถทุกประเภทชนิดที่ 2 เลขที่ใบอนุญาต 01068/39 ออกโดย สำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ วันอนุญาต 28 พฤศจิกายน 2539 วันสิ้นอายุ 26 ธันวาคม 2563 (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ)
ส่วนความเร็ว ตรวจสอบโดยระบบ GPS ครั้งสุดท้ายตรวจสอบเวลา 08.05.27 น. 44 กม./ชม. และไม่พบความเร็วเกินและไม่พบชั่วโมงการทำงานเกินในวันที่ 11 ตุลาคม 2563
ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุเบื้องต้นรถที่เกิดเหตุมีประกันไว้ 2 ประเภท คือ 1.มีประกัน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยฯ หมดอายุ 30 ก.ย.2564 และ 2.มีประกันภัยประเภท 3 บ.สินมั่นคง หมดอายุวันที่ 30 ก.ย.2564
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ประกอบการ เบื้องต้นพบฐานความผิดดังนี้ 1.บรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง ตามมาตรา 32(3), 131 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท 2.ใช้รถทำการขนส่งโดยไม่ชำระภาษีประจำปีให้ครบถ้วนถูกต้องตามมาตรา 71(2), 148 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท
ผู้ประกอบการขนส่งไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงว่าด้วยความปลอดภัย ตามมาตรา 36, 131 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ดำเนินการเรียกตัวผู้ประกอบการมาสอบสวน พิจารณาลงโทษต่อไป
ด้าน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์รถทัวร์กฐินถูกรถไฟชนนั้น ขณะนี้สั่งการให้ขนส่งจังหวัดฉะเชิงเทรา ไปเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งในเรื่องของมาตรฐานรถไม่ประจำทางที่ให้บริการผู้โดยสาร รวมถึงให้ไปตรวจสอบจำนวนผู้โดยสารที่โดยสารในรถคันดังกล่าวว่าตรงตามมาตรฐาน ที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด หรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร
ขณะเดียวกันในภาพรวมสั่งการให้ขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ เข้มงวดในเรื่องของรถโดยสารไม่ประจำทางและรถโดยสารประจำทางมากขึ้น เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลบุญที่ประชาชนนิยมเดินทางโดยรถขนาดใหญ่จำนวนมาก
ติดตามข่าวทาง
Facebookhttps://www.facebook.com/PAKPHRIAONE