ชาวนาครวญ ปลูกข้าว 30 ปี เพิ่งเคยเจอ โรคหอยคันรุนแรง เป็นนานถึง 3 สัปดาห์

ชาวนาครวญ ปลูกข้าว 30 ปี เพิ่งเคยเจอ โรคหอยคันรุนแรง เป็นนานถึง 3 สัปดาห์ แพร่กระจายทั้งในนาและคูน้ำที่มีหอยคันอาศัยอยู่

กรณีพบ โรคหอยคันระบาด หรือตัวอ่อนพยาธิใบไม้ในเลือดชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในตัวหอยคัน และแพร่กระจายอยู่ในน้ำในนาข้าว ทำให้เกิดเป็นผื่นคันอย่างรุนแรงตามร่างกาย และมีชาวนา 7 ตำบล ในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา พากันเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจะนะ ไปแล้ว 233 ราย และมีอีกบางส่วนที่ไม่ได้ไปพบแพทย์ และทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ ได้ออกมาแจ้งเตือนชาวนาถึงสาเหตุของโรคนี้แล้ว เพื่อให้ชาวนาได้รู้ และหาวิธีป้องกันตัวเองนั้น

• ชาวนา 233 คน จู่ๆ คันหนัก ตุ่มขึ้นบวมแดง หมอพบพยาธิที่อยู่ในหอย ชอนไชผิว

ความคืบหน้าวันที่ 12 พ.ย.63 นางอาภรณ์ แก้วกลับ อายุ 53 ปี ม.8 บ้านศาลาน้ำ ต.คลองเปียะ อ.จะนะ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ตนเองทำนามานานกว่า 30 ปี แล้ว และไม่เคยเกิดอาการแพ้ หรือเป็นผดผื่นคันอย่างรุนแรงแบบนี้มาก่อน ในปีนี้เริ่มดำนาในช่วงต้นเดือน ต.ค. 63 พื้นที่ประมาณ 1 ไร่ครึ่ง ใช้เวลาดำนา 2 วัน และหลังจากดำประมาณ 3-4 เริ่มเกิดเป็นผื่นขึ้นตามตัว และมีอาการคันแบบรุนแรง โดยเฉพาะที่แขนขวา ส่วนแขนซ้ายเล็กน้อย และที่ขาทั้ง 2 ข้าง จนเกือบถึงเข่า ซึ่งเป็นบริเวณที่โดนน้ำในนาข้าวทั้งหมด และทีแรกคิดว่า อาจจะเกิดจากน้ำเสีย

นางอาภรณ์ กล่าวว่าตนไปหาหมอใกล้บ้าน และได้ยามารักษาอาการ ทั้งยาฆ่าเชื้อ ยาแก้แพ้ และ ยาทาแก้อาการผดผื่นคัน กระทั่งผ่านประมาณ 3 สัปดาห์ จึงหายกลับมาเป็นปกติ และแทบไม่เห็นร่อยรอยของบาดแผลที่เกิดขึ้น

นางอาภรณ์ กล่าวว่าที่นามี 15 ไร่ มีชาวนาเป็นโรคลักษณะเดียวกันนี้อีกเกือบ 20 คน ทั้งชาวบ้านในพื้นที่ และชาวบ้านต่างตำบลที่เดินทางมารับจ้างดำนา มีอาการเดียวกันหมด หลานสาววัย 8 ขวบ ที่ลงไปจับหอยจับปูในคูน้ำหน้าบ้านเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เกิดเป็นผื่นคันเช่นเดียวกันด้วย

นางอาภรณ์ กล่าวว่าที่นามี 15 ไร่ มีชาวนาเป็นโรคลักษณะเดียวกันนี้อีกเกือบ 20 คน ทั้งชาวบ้านในพื้นที่ และชาวบ้านต่างตำบลที่เดินทางมารับจ้างดำนา มีอาการเดียวกันหมด หลานสาววัย 8 ขวบ ที่ลงไปจับหอยจับปูในคูน้ำหน้าบ้านเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เกิดเป็นผื่นคันเช่นเดียวกันด้วย

นางอาภรณ์ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจแล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่พบอะไร กระทั่งมาทราบภายหลังว่า เกิดจากตัวอ่อนพยาธิในเลือดชนิดหนึ่งนั่นเอง ซึ่งชาวบ้านบางรายที่หายแล้วมีทั้งที่หายเป็นปกติแทบไร้ริ้วรอย ส่วนบางคนยังมีแผลเป็นเล็กน้อยให้เห็น ซึ่งหลังจากนี้ชาวนาต้องหาทางป้องกันตัวเอง เพราะ หลังดำนาเสร็จก็ต้องลงท้องนาอีกเรื่อยๆ ทั้งการเปิดปิดน้ำ และการหว่านปุ๋ย และดูแลกำจัดวัชพืชในนาข้าว ซึ่งเสี่ยงที่จะเกิดโรคขึ้นอีก

ด้าน นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ กล่าวว่า พื้นที่ทั้ง 7 ตำบลมี ต.ขุนตัดหวาย ต.คลองเปียะ คู แค จะโหนง น้ำขาว และ ต.ป่าชิง ที่เกิดการแพร่ระบาดของหอยคันประกอบด้วย วิธีการแก้ปัญหาของโรคยังไม่มี มีวิธีป้องกันตัวในเบื้องต้น เพื่อเป็นการป้องกันเอาไว้ก่อน ชาวนาจะต้องหาทางให้ร่างกายโดนน้ำ หรือสัมผัสกับน้ำในนาให้น้อยที่สุด เช่น สวมรองเท้าบูท ซึ่งค่อนข้างยากลำบาก และทุลักทุเล เมื่อต้องทำนา

หน้าแรก 

ติดตามข่าวทาง

Facebookhttps://www.facebook.com/PAKPHRIAONE